Category: บันเทิง

การแต่งกลอนนั้นถือว่าเป็นความฝันวัยเด็กของหลาย ๆ คนเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ ซึ่งปัจจุบันกลอนกวนๆ นั้นก็ฮิตมากเลยทีเดียว ฉะนั้นอย่างปล่อยให้ฝันเป็นแค่อดีต จงหยิบปากกากับสมุดขึ้นมาอีกครั้ง มาเริ่มเขียนกลอนกวนๆ กันเลยค่ะ การหัดเขียนกลอนกวนๆ นั้นไม่ยากเลย 1. หาแรงจูงใจจากสิ่งแวดล้อม หากคุณไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน หรือไม่รู้จะเขียนกลอนกวนๆ อะไรดี ลองมองหาเหตุปัจจัยจากรอบข้างค่ะ ตอนนี้สถานการณ์ต่าง ๆ เป็นยังไง เพื่อนของคุณอกหัก แอบรัก หรือประสบการณ์จากตัวคุณเอง หามาสักเครื่องแล้วลองนำมาเขียนเป็นกลอนค่ะ โดยทั่วไปแล้วกลอนกวนๆ นั้นมักจะไม่ยาวมากมีแค่ ประโยคหรือสองประโยคเท่านั้นเอง 2. ใช้สื่อเฟสบุ๊คให้เป็นประโยชน์ ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า บางครั้งเราอาจจะได้แรงบันดาลใจหรือความคิดดี ๆ จากการอ่านสเตตัสเพื่อนในเฟส ซึ่งสามารถนำมาต่อยอดเขียนกลอนกวนๆ ได้เลยค่ะ เช่นเพื่อนในเฟสคุณบ่นๆ เรื่องอ้วนอะไรแบบนี้ คุณก็สามารถนำมาทำเป็นกลอนกวนๆ คำสั้น ๆ ได้เลยค่ะ 3. ขุดความรู้สึกขึ้นมาเขียน อารมณ์และความรู้สึก เป็นอะไรที่นำมาเขียนกลอนกวนๆได้ดีทีเดียวค่ะ และส่วนใหญ่ก็มักจะถูกใจคนอ่านด้วย พวกอารมณ์รัก แอบรักคนส่วนใหญ่จะชอบ ลองนึกย้อนไปถึงความรู้สึกที่คุณแอบรักใครสักคนแล้วลงมือเขียนดูสิคะ รับรองว่าได้กลอนกวนๆ หลายบทเลยทีเดียวล่ะ ทั้งหมดนี้ก็เป็นคำแนะนำ ในการเขียนกลอนกวนๆ ค่ะ

หากเราพูดถึงคำว่าได้ยินเพลงออนไลน์แล้วทุกท่านจะก็จะคิดถึงอะไรกันบ้างฮะ เพลง? เพลงออนไลน์? เว็บฟังเพลงออนไลน์? หรือเปล่าสไตล์เพลง? แน่นอนครับผมว่าคำตอบที่ได้ยังจะต้องย่อมแตกต่างกันออกไปตามความคิดของแต่ละคนแต่มีสิ่งหนึ่งที่กระผมเชื่อว่าทุกคนมักมีกันอย่างแน่นอนแถมคงมีคล้ายๆ กันด้วยนั่นก็คือ “ความสุนทรีย์ในความคิด” นั่นเอง ผมเชื่อเหลือเกินครับว่าใครก็ตามที่สนใจได้ยินเพลงไม่ว่าจะจะเป็นการฟังเพลงในรูปแบบของสื่อปกติๆ หรือจะจะได้ยินเพลงออนไลน์ก็ตามทีคนเหล่านี้ต้องจะต้องมีความชอบและหลงใหลในเสียงเพลงอยู่คือทุนเดิมอยู่แล้วดังนั้นสิ่งที่เราจะอาจจะคิดถึงเป็นอันดับแรกเมื่อสนทนาถึงการฟังเพลงออนไลน์ก็เป็นความสุนทรีย์ของผู้ฟังนั่นเอง ความสุนทรีย์เหล่านี้นั้นไม่ใช่สิ่งที่ผมจะก็จะจัดหามาได้ง่ายๆ นะครับผมเพราะว่าหากไม่ใช่คนที่สนใจสนใจในเสียงดนตรีและคือคนที่มีความรู้สึกอ่อนไหวจริงๆแล้วไม่มีทางหรอกขอรับที่จะคงจะเกิดความสุนทรีย์ในจิตใจพร้อมกับดื่มด่ำไปกับบทเพลงที่ได้ฟังแต่ถึงทั้งนี้ทั้งนั้นถึงแม้ว่ากระผมจะอาจไม่มีความคิดสุนทรีย์ที่ว่านี้อยู่ในตัวเลยก็ตามแต่ก็ใช่ว่าข้าพเจ้าจะอาจไม่สามารถสร้างมันให้เกิดขึ้นไปได้นะขอรับกระผมถ้าแต่เพียงแค่ว่าเราจำเป็นย่อมใช้เวลาสักหน่อย ในการทำความรู้สึกสุนทรีย์ให้เกิดขึ้นไปนั้นเรามักย่อมที่จะน่าจะหมั่นได้ยินเพลงอยู่หลายครั้ง มีจินตนาการอยู่กับเนื้อเพลงที่ทางศิลปินพยายามถ่ายทอดออกมา อดทนเข้าถึงท่วงทำนองพร้อมทั้งความรู้สึกเพลงให้ได้เยอะแยะที่สุดซึ่งหากเราฝึกหลายครั้ง จนอยู่ตัวแล้วล่ะก็การเข้าถึงสุนทรีย์แห่งความรู้สึกเพลงก็จะจะเกิดขึ้นไปเองโดยอัตโนมัติฮะ

สิ่งหนึ่งที่คนไม่ได้อยู่ในวงการภาพยนตร์ต่างสงสัยก็คือบรรดาหนังใหม่ๆ ที่ลาโรงออกจากโรงภาพยนตร์ไปแล้วอีกนานแค่ไหนกว่าจะจะออกมาเป็น DVD เพื่อจะบรรดาคนที่ชอบดูหนังใหม่ๆ แต่ไม่อยากไปโรงภาพยนตร์ได้มีโอกาสได้ดูกับเขาบ้างถึงแม้ว่าจะคงจะช้าจากโดยทั่วไปแล้วบ้างก็ไม่ว่ากันซึ่งในเรื่องนี้ในฐานะที่กระผมเคยทำงานด้านหนังแผ่นอยู่มีคำตอบมาไขข้อข้องใจขอรับกระผม                โดยทั่วไปแล้วทางค่ายหนังกับโรงภาพยนตร์และบริษัทผู้ผลิตดีวีดีหรือไม่หนังแผ่นเหล่านี้ย่อมจะอาจมี Contract หรือไม่ข้อสัญญากันอยู่แล้วว่าหนังใหม่ทั้งหมดที่ออกจากโรงภาพยนตร์แล้วนั้นจะน่าจะออกเป็นหนัง VCD หรือไม่ DVD ได้ต้องใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือนแล้วแต่จะอาจตกลงกันสาเหตุที่ย่อมตั้งช่วงเวลาไว้เป็นต้นว่านี้ก็เพราะหนังบางเรื่องนั้นไม่ได้ฉายที่โรงภาพยนตร์ในเมืองใหญ่ๆ อย่างเดียวเท่านั้น ถ้าแต่ยังมีการนำไปออกฉายตามโรงภาพยนตร์ท้องถิ่นอีกเช่นกันจนกระทั่งจึงควรมักเว้นช่วงเวลาให้กับหนังที่ฉายในโรงเหล่านั้นพร้อมกับเหตุผลอีกประการหนึ่งก็คือภาพยนตร์ที่ออกจากโรงภาพยนตร์แล้วต้องมีกรรมวิธีในการผลิตคือ VCD หรือว่า DVD หลายขั้นตอนเริ่มตั้งแต่การคัดลอกฟิล์มใหม่ให้เป็นระบบเดียวกัน, การพากย์เสียงใหม่ในกรณีที่คือหนังต่างประเทศ (เนื่องจากเนื่องจากว่าลิขสิทธิ์เสียงพากย์ในโรงภาพยนตร์นั้นเป็นคนละตัวกันกับทางหนังแผ่น) การสร้างเรื่องขออนุญาตจากกอง กบว. การทำปก การสร้างโปสเตอร์ ฯลฯ ซึ่งทุกอย่างนี้จะคงจะใช้เวลาในการสร้างและเตรียมตัวไม่น้อยกว่า 3 เดือนดังนั้นจึงส่งผลให้ภาพยนตร์ในรูปแบบ DVD ออกช้ากว่าทางโรงภาพยนตร์ตามช่วงเวลาที่กล่าวนั่นเอง

ในยุคหนึ่งนักข่าวบันเทิงมีความสำคัญต่อดารานักร้อง เพราะว่าสามารถบันทึกข่าวทำกระแสให้ดังหรือดับก็ขึ้นไปอยู่กับนักข่าว และ สื่อนั้นๆ จึงมีที่มาของคำว่า “นั่งเทียนบันทึกข่าว” และ “พลังปากกาในมือ” ที่หมายถึงวาดข่าวโดยไม่หาข้อเท็จจริง  แต่ยุคปัจจุบันนี้ที่การให้คำปรึกษาข่าวในโลกออนไลน์เป็นที่ชื่นชอบ การทำงานอื่นๆผ่านทางคอมฯ ไม่ว่าจะน่าจะวาดข่าว พร้อมทั้ง ดาราบางคนก็มีการออกมาปฏิวัตินักข่าวที่ไม่มีจรรยาบรรณ เชิญชวนข่าวไม่จริง พร้อมทั้ง ประชากรเริ่มไม่ให้ความชอบกับข่าวที่อ่านแล้วมั่ว ดังนั้นหลายๆคนจึงไม่ค่อยเสพข่าวบันเทิง หรือ แม้แต่ตัวดาราเองก็ไม่เสพข่าว  จนหลายๆคนที่เสพข่าวจากสื่อออนไลน์ พร้อมกับ โซเชี่ยลต่างๆ ต่างตั้งคำถามกับข่าวบันเทิงที่ไม่จริง ข่าวบันเทิงที่มั่วข้อมูล พร้อมด้วย ข่าวบันเทิงที่ทำกระแสจนเกินงามว่า ที่จริงแล้วนั้น ผู้สื่อข่าวบันเทิงนั้น เป็นนักข่าวใช่หรือไม่นักเลงคีย์บอร์ดกันแน่                      ในส่วนของนักข่าวนั้น บางครั้งนักข่าวก็ออกมายอมรับว่าได้ข้อมูลมาน้อยก็มักปรุงแต่งให้มีความน่าสนใจเพื่อที่จะข่าวขายได้ หรือ บางครั้งในวงการข่าวบันเทิงนั้น กัมีนักข่าวที่ทำตัวคือนักเลงคีย์บอร์ดจริงๆ เพราะว่าความอยากได้ให้คนติดตามเวปไซค์ของสื่อในสำนักที่นักข่าวนั้นสร้างงานอยู่ หรือ โพสกระทู้ต่างๆนาๆ เพื่อให้ทำประเด็นให้คนติดตามจากสื่อของตนเองเป็นต้น พร้อมกับมันก็ส่งผลให้กับดารานักร้องที่เป็นข่าวด้วย ซึ่งมีทั้งจริงพร้อมด้วยไม่จริงปะปนกันไป ซึ่งนักข่าวหลายๆคนก็บอกว่าห้ามยากเนื่องจากนักข่าวบันเทิงนั้นมีหลายรูปแบบ มีทั้งที่มีต้นสังกัด พร้อมด้วย นักข่าวสมัครเล่นที่หาข่าวมาจำหน่าย หรือเปล่า ที่เรียกว่าปาปารัชซี่นั่นเอง พร้อมทั้ง คนที่จะอาจตัดสินได้จริงคือคนที่เสพข่าวนั่นเอง เพราะว่านักข่าวบันเทิงมีหน้าที่แค่จัดหาข่าว และ เสนอข่าว แค่นั้นเอง… Continue reading ผู้สื่อข่าวบันเทิงไทย